นับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ดูเหมือนว่า ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะสลับกันขึ้นรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลกกันอย่างสนุกสนาน เล่นไม่แบ่งให้ใครโงหัวขึ้นมาเลย แต่ทั้งหมดก็มาจากผลงานที่เขาสองคนได้ทำเอาไว้ แต่หากว่าไม่มีสองคนนี้ล่ะ ใครจะมีสิทธิ์รับรางวัลบัลลงดอร์บ้าง วันนี้เราจะได้รู้กัน
เฟอร์นันโด ตอร์เรส (2008)
ในฤดูกาล 2007-08 ฟอร์มการเล่นของ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ถือว่ากลับมายอดเยี่ยมได้อีกครั้ง เขามีชื่อเข้ารับการเสนอเข้าชิงบัลลงดอร์ หลังจากทำหน้าที่ซัดตาข่ายได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจกับลิเวอร์พูล ซึ่งในปีนั้น เขาถลุงตาข่ายในทุกรายการให้กับทีมหงส์แดงไปถึง 33 ประตูจากการลงเล่น 46 นัดน่าเสียดาย ที่แต้มของตอร์เรส ยังคงเป็นรองคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และลิโอเนล เมสซี่ มิเช่นนั้น เขาจะได้รับเกียรติประวัตินี้ไปครองครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะอย่างน้อยก็เป็นหัวหอกระดับแนวหน้าของโลกได้อยู่ช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว
ชาบี้ เอร์นันเดซ (2009)
เป็นอีกคนหนึ่งที่มีคะแนนเข้ามาเป็นอันดับที่สามของผู้ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ ซึ่งคะแนนอันดับหนึ่งในปีนั้นเป็นของลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งทิ้งขาดโรนัลโด้ไปถึง 240 คะแนน โดย ชาบี้ เป็นเพื่อนร่วมทีมของ เมสซี่ ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นกลจักรสำคัญในการพาทีมบาร์ซ่าแข็งแกร่งไร้เทียมทานในปีนั้น ในฤดูกาลนี้ เขาทำได้ 10 ประตู จากการลงเล่น 54 เกมให้บาร์ซ่า แต่เขาคือผู้ปั้นเกมให้ เมสซี่ยิงได้ถึง 38 ประตู ในฤดูกาลดังกล่าว ซึ่งในปีนั้น เขาคือจุดศูนย์รวมของการเล่น ทิกี้-ทาก้า อันลือชื่อของบาร์ซ่า ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในยุคนั้น
อันเดรียส อิเนสต้า (2010)
จริงๆ แล้วผลงานของ อิเนสต้าในฤดูกาลดังกล่าว น่าจะดีพอที่จะล้ม ลิโอเนล เมสซี่ เพื่อนร่วมทีมที่ได้รับรางวัลดังกล่าวไปเป็นปีที่สองติดต่อกัน เพราะในปีดังกล่าว เขาโดดเด่นอย่างมากในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และเป็นตัวเขานั่นแหละ ที่ซัดประตูชัยให้สเปน ครองแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนัง
ขณะที่ผลงานของสโมสร เขาก็มีส่วนช่วยในการปั้นเกมให้ลิโอเนล เมสซี่ ได้โดดเด่นในปีดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งหากวัดดีกรีกันตามตรงแล้ว การได้แชมป์โลกของอิเนสต้า กับสเปน น่าจะมีดีพอที่ทำให้เขาก้าวขึ้นถึงรางวัลเกียรติยศดังกล่าว แต่มันก็ไม่เจิดจรัสพอที่จะทำให้คนเห็นเหมือนอย่างที่เห็น เมสซี่เลยจริงๆ
ชาบี้ เอร์นันเดซ (2011 อีกครั้ง)
ในปีนี้ บาร์เซโลน่าเก็บทั้งแชมป์ลาลีกา และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกมาครองได้ และก็ยังเป็นลิโอเนล เมสซี่ ที่เก็บรางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปครองอีกครั้งเช่นกัน ชาบี้ ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับที่สาม ในรอบ 3 ปีติดต่อกัน และปีนี้เขาซัดประตูได้ 14 ประตูจากการเล่น 51 นัด ขณะที่ โรนัลโด้ ที่เข้าป้ายมาเป็นอันดับสอง ซัดได้ 55 ประตูจาก 60 นัด แต่รู้มั้ยปีนี้ เมสซี่ ซัดประตูไปทั้งสิ้น 73 ประตู แล้วอย่างนี้ ใครจะไปสู้เขาได้ล่ะ
อันเดรียส อิเนสต้า (2012 อีกครั้ง)
ในปีนี้ อันเดรียส อิเนสต้า ติดโผเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 3 อีกครั้ง และก็เช่นเคย ที่เขามีคะแนนตามหลังทั้งลิโอเนล เมสซี่ และ โรนัลโด้ ซึ่งเพื่อนร่วมทีมของเขา ผงาดคว้ารางวัลเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันได้สำเร็จ แม้ว่า เขาจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญจนพาสเปน ผงาดครองแชมป์ยูโร ได้สำเร็จ
และเป็นถ้วยรางวัลใหญ่ เป็นรายการที่สาม เช่นเดียวกับการเป็นแชมป์ลาลีกาของบาร์เซโลน่า ซึ่งผลงานของเขาคือการซัดไป 8 ประตู กับ 17 แอสซิสต์ ซึ่งเขามีส่วนช่วยให้เมสซี่ มีผลงานที่สุดยอด เพราะในรอบ 1 ปี ปฏิทิน เขาซัดได้ถึง 91 ประตู ทำลายสถิติของแกร์ด มุลเลอร์ของเยอรมันที่เคยทำเอาไว้ได้ 85 ประตู อย่างราบคาบ
ฟร้องค์ ริเบรี่ (2013)
กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ ติดโผเข้ามาเป็นอันดับที่สาม และเช่นเคย สองอันดับแรกยังคงเป็นสองผู้ยิ่งใหญ่ เมสซี่-โรนัลโด้ อีกเช่นเคย แต่มันสลับกันตรงที่ว่าครั้งนี้ โรนัลโด้ เป็นผู้ขึ้นไปรับรางวัล บัลลงดอร์ แทน ฤดูกาลนี้
ริเบรี่ ทำผลงานกับบาเยิร์น มิวนิคได้โดดเด่นมาก เมื่อซัดได้ 16 ประตู จาก 39 นัด และทำให้ทีมเป็นแชมป์บุนเดสลีกาพ่วงด้วยแชมเปี้ยนส์ลีก แต่มันก็ดีไม่พอเพราะ โรนัลโด้ ทำสถิติเอาไว้ 55 ประตูจากการลงเล่น 55 นัด จึงเข้าป้ายและเบียดเมสซี่ ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งบ้าง